เลือกซื้อพัดลมระบายความร้อนแบบไหนดี

0
960
   พัดลมระบายความร้อนหรือพัดลมระบายอากาศ เป็นอุปกรณ์ที่มีสำคัญมากชิ้นหนึ่งที่ใช้ร่วมกับบรรดาอุปกรณ์ที่ใช้ในเครื่องจักรหรือตู้ควบคุมไฟฟ้าทั้งในโรงงานอุตสาหกรรมหรือบริษัทต่างๆ หลายแห่งทุกวันนี้ เพราะมีประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะการระบายความร้อนออกจากตัวเครื่องจักรที่ทำงานตลอดเวลา ตู้ไฟฟ้า ตู้ควบคุมอุปกรณ์ ตู้แอร์คอนโทรล ตู้แช่แข็ง ตู้สื่อสาร และอื่น ๆ อีกมากมาย แล้วคำถามคือ จะเลือกซื้อพัดลมระบายความร้อนแบบไหนดี สิ่งที่ต้องคำนึงถึงหลักใหญ่เลยก็คือ

เป้าหมายและลักษณะการใช้งาน

ก่อนการเลือกซื้อเลือกใช้พัดลมระบายความร้อนนั้นปัจจัยหลักสำคัญคือต้องดูเป้าหมายและลักษณะในการใช้งานของพัดลมระบายความร้อนชนิดนั้นหรือตัวนั้นว่า ตรงกับ
จุดประสงค์หลักของเราหรือไม่ อย่างไร เป็นพัดลมระบายความร้อนที่ใช้สำหรับอุปกรณ์แบบใด ประเภทใด เช่น ใส่ในตู้คอนโทรลเลอร์ ใส่ใน CPU ใส่ในอุปกรณ์หรือเครื่องจักร
ที่เกี่ยวกับการผลิต ฯลฯนอกจากนี้แล้วยังมีอีกหลายประการในการพิจารณาเลือกซื้อเลือกใช้พัดลมระบายความร้อนในเครื่องจักรหรือในตู้ควบคุมไฟฟ้า ตู้คอนโทรล จากสิ่งเหล่านี้

วัสดุที่เลือกใช้

พัดลมระบายความร้อนจะมีวัสดุที่ประกอบการผลิตหลายประเภท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของกรอบหรือโครงสร้างของพัดลม และส่วนที่เป็นใบพัดลม ซึ่งวัสดุใช้ในการทำพัดลมระบายความร้อนก็เป็นอีกปัจจัยในการเลือกใช้ ตัวอย่างเช่น พัดลมระบายความร้อนที่มีกรอบหรือโครงสร้างเป็นวัสดุอลูมินั่ม (ALUMINUM ADC-12) ส่วนใหญ่มักจะพ่นด้วย
สีดำ แต่ก็มีให้เห็นอยู่บ้างที่ยังคงเป็นสีของอลูมินั่มเช่นเดิม หรือวัสดุเป็นพลาสติก ไฟเบอร์ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งาน ส่วนใบพัดลมมีทั้งที่เป็นพลาสติก ไฟเบอร์  (PLASTIC 94V-0 PBT. COVERING GLASS FIBER) ไนล่อน (Nylon) หรือใบพัดเหล็ก (METAL) พ่นสีดำเช่นกัน และในบางครั้งก็อาจจะเห็นลูกค้าตามหาพัดลมที่ใช้วัสดุสแตนเลสด้วยเนื่องจากต้องการสเปคสินค้าเฉพาะด้านนั่นเอง

รูปตัวอย่างพัดลม SD127AN โครงสร้างอลูมินั่มสีปกติใบพัดไฟเบอร์ และ UF80AM โครงร้างอลูมินั่มพ่นสีดำใบพัดเหล็กพ่นสีดำ

รูปตัวอย่างพัดลม SD127AN โครงสร้างอลูมินั่มสีปกติใบพัดไฟเบอร์ และ UF80AM โครงร้างอลูมินั่มพ่นสีดำใบพัดเหล็กพ่นสีดำ

คุณภาพ

พัดลมระบายความร้อนที่มีคุณภาพนั้น มีลักษณะเป็นอย่างไรได้บ้าง อาจจะต้องพิจารณาถึงรายละเอียดต่าง ๆ รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น

  • อายุการใช้งานของพัดลมระบายความร้อนนั้น ๆ อายุการใช้งานของพัดลมแต่ละชนิดแต่ละประเภทแต่ละตัว มักขึ้นอยู่กับประเภทของตลับลูกปืนในตัวของพัดลมตัวนั้น
    โดยหากเป็นแบบสลีฟแบริ่ง (Sleeve Bearing) จะมีอายุการใช้งาน อยู่ที่ประมาณ 15,000 ชั่วโมงขึ้นไป ส่วนแบบบอลแบริ่ง (Ball Bearing) จะมีอายุการใช้งาน
    อยู่ที่ประมาณ 40,000 ชั่วโมงขึ้นไป และอีกเทคโนโลยีคือ ตลับลูกปืนแบบพิเศษแบบไฮบริด (Hybrid Ceramic Bearing) แบบนี้อายุการใช้งาน จะมากกว่า 60,000 ชั่วโมง พัดลมระบายความร้อนต้องใช้งานได้ในระยะยาว มีความทนทาน

  • สามารถเปิดใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเครื่องจักรหรือตู้ควบคุมต่าง ๆ ต้องเปิดใช้งานตลอดเวลา ดังนั้น พัดลมระบายความร้อนก็ต้องทำงานอย่างต่อเนื่องได้เช่นกัน
  • ความทนต่อความเย็นหรือความร้อนได้ดี อุณหภูมิในการใช้งานของพัดลมระบายความร้อนก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากเลือกใช้อย่างไม่ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ตัวพัดลมเองก็อาจเกิดความเสียหายขึ้นได้ หากเป็นอุณหภูมิที่พัดลมระบายความร้อนส่วนใหญ่รองรับได้จะอยู่ที่ประมาณ -20 องศาเซลเซียส ถึง ประมาณ 70
    องศาเซลเซียส แต่ด้วยประสิทธิภาพของพัดลมระบายความร้อน AC Cooling Fan ภายใต้ยี่ห้อ FULLTECH และ DC Cooling Fan ภายใต้ยี่ห้อ SINWAN จะมีบางรุ่น
    ที่รองรับอุณหภูมิได้เย็นมาก ๆ ถึง -40 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิที่สูงถึง 90 องศาเซลเซียส แต่หากผู้ใช้ต้องการพัดลมที่สามารถทนอุณหภูมิได้สูงกว่านี้สามารถสอบถามทางผู้ขายได้ที่ไลน์ @tech-time
  • ความเร็วรอบ (Speed : RPM) หรือปริมาณลม (Maximum Air Flow : CFM) พัดลมระบายความร้อนให้แรงลมมากน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับความพอเหมาะในการเลือกใช้เพื่อติดตั้งกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องการระบายความร้อนเพื่อให้มีประสิทธิผลกับการระบายความร้อนให้เป็นไปตามที่ต้องการ|
  • ค่าการกันน้ำกันฝุ่นหรือสารเคมี และรวมถึงการรองรับความชื้นได้ดีด้วย โดยปกติสถานที่ใช้งานของพัดลมระบายความร้อนของเครื่องจักรหรือตู้คอนโทรลมักเป็นพื้นที่ที่มี
    ฝุ่น ละอองน้ำ ความชื้น ไอสารเคมี ดังนั้น การพิจารณาถึงค่า IP ค่าความชื้นที่รับได้หรือการกันเคมีได้ ก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่ง แต่หากเป็นไปได้ การป้องกันไม่ให้พัดลมระบายความร้อนต้องโดนกับฝุ่นละออง หยดน้ำ หรือสารเคมีใด ๆ ก็ควรจะทำ ซึ่งอาจจะใช้อุปกรณ์เสริมเช่น พลาสติกฟิลเตอร์ (Fan Filter) หรือ สแตนเลสฟิลเตอร์ (Stainless Filter Guard) ใช้สำหรับป้องกันฝุ่นละออง ไอสารเคมี ละอองน้ำมัน เข้ามาสู่ตัวพัดลมได้ รวมถึงการหมั่นตรวจสอบทำความสะอาดฟิลเตอร์พัดลมเหล่านี้
    ให้ทำหน้าที่ป้องกันให้กับตัวของพัดลมระบายความร้อนให้ทำงานได้ดีเช่นเดิมไปด้วย
  • ระบบป้องกันของตัวพัดลมระบายความร้อนเอง โดยปกติพัดลมสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรมทั่วไปมักจะมีระบบป้องกันคือ Thermal Protection หรือ Impedance Protection เพื่อป้องกันสภาวะเกินสเปคของตัวพัดลมเองที่จะรับได้นั่นเอง
  • ระดับเสียง หากพัดลมที่ใช้ระบายความร้อนให้กับเครื่องจักรหรือตู้ควบคุมใด ๆ นั้นให้แรงลมสูงแต่เสียงกลับเบามาก ย่อมเป็นที่ปรารถนาของผู้ใช้งานเป็นที่สุด การเลือกใช้พัดลมระบายความร้อนที่มีระดับเสียงที่ไม่เกินมาตรฐานจึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานคำนึงถึงเช่นกัน
  • กินไฟน้อยแต่ให้แรงลมสูง เรื่องการใช้พลังงานของพัดลมระบายความร้อนก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม พัดลมระบายความร้อนบางตัวถึงแม้ขนาดเท่ากัน แต่การกินไฟ กระแสไฟที่ใช้กลับไม่เท่ากันแต่อาจได้แรงลมที่พอ ๆ กันก็ได้ การมองหาพัดลมประหยัดพลังงานก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ใช้งาน ซึ่งมีพัดลมอีกประเภทเรียกว่า
    พัดลม EC Fan ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในแวดวงอุตสาหกรรมสำหรับผู้ใช้งานพัดลมระบายความร้อนในเครื่องจักรหรือตู้คอนโทรล ณ ปัจจุบันนี้
  • ได้รับมาตรฐานสากล เช่น CE UL VDE EMC LVD RoHS เป็นต้น มาตรฐานเหล่านี้เป็นเครื่องมือการันตีได้อย่างหนึ่งถึงความมีคุณภาพของพัดลมระบายความร้อนที่ต้องการใช้ แสดงให้เห็นว่าได้ผ่านการทดสอบจากผู้ผลิตอย่างแท้จริง ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้เมื่อเลือกใช้งาน

ขนาดของพัดลม

พัดลมระบายความร้อนสำหรับใช้กับเครื่องจักรหรือตู้คอนโทรลนั้นควรมีขนาดที่เป็นมาตรฐานทั่วไปตามท้องตลาด เนื่องจากหากเป็นขนาดพิเศษไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองทั่วไปการหาอะไหล่เปลี่ยนทดแทนจะเป็นเรื่องที่ยากมาก ต้องติดต่อกับทางผู้ผลิตเครื่องจักรนั้น ๆ เพียงช่องทางเดียว ทั้งนี้สำหรับผู้ออกแบบ การเลือกใช้พัดลมนั้นต้องมีขนาดที่รองรับกับอุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่จะใช้งาน ไม่เกะกะการทำงานของอุปกรณ์เหล่านั้นที่จะให้ติดตั้งพัดลมไว้ และอยู่ในตำแหน่งที่จะช่วยระบายความร้อนจากอุปกรณ์เหล่านั้นได้จริงๆซึ่งผลิตภัณฑ์พัดลมระบายความร้อนของ Tech Time มีให้เลือกหลายขนาด ตามลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้ครับ

รูปร่างหรือรูปทรงของพัดลม

การเลือกใช้พัดลมระบายความร้อนที่มีรูปทรงธรรมดาพื้นฐานทั่วไปจะทำให้การติดตั้งหรือเปลี่ยนตัวใหม่ทำได้สะดวกกว่า โดยมักขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานซึ่งอาจแบ่งพัดลมระบายความร้อนของเครื่องจักรและตู้ไฟเหล่านี้ออกเป็น 4 ประเภทคือ

  • Axial Fan พัดลมประเภทนี้ลมจะออกจากแกนกลางของใบพัด ลมออกมาด้านหน้าหรือด้านหลังโดยตรง มีหลายรูปทรง เช่น สี่เหลี่ยม กลม กลมตัด รี หรือพวกที่ไม่มีกรอบ
    มีเฉพาะใบพัดลมเปลือย ๆ พร้อมกับมอเตอร์ เป็นต้น ตัวอย่างพัดลมทรงสี่เหลี่ยมขนาด 4 นิ้ว เช่น รุ่น UF12A,UF12B หรือพัดลมทรงรี (หรือบางทีอาจเรียกพัดลมตาแมว เพราะลักษณะกลมมีปีกยื่นออกมาด้านข้างสองข้าง คล้ายดวงตา) พัดลม ฟูลเทค รุ่น :UF15KCR ซึ่งเป็นพัดลมระบายความร้อนคุณภาพสูงอายุการใช้งานยาวนานชนิดทรงวงรี ขนาด 6 นิ้ว

  • Cross Flow Fan ลักษณะของพัดลมจะเป็นทรงยาวโครงครอบใบพัดเป็นกล่องเหลี่ยม ใบพัดลมยาว ลมที่ออกมาก็จะเป็นแนวยาวตามใบพัด เป็นม่านอากาศ พัดลมทรงนี้
    มักเรียกว่า พัดลมโพรงกระรอกหรือพัดลมกรงกระรอกก็มีเช่นกัน มักใช้ในลิฟท์โดยสาร ลิฟท์ขนส่ง งานในส่วนการผลิตที่ต้องการเป่าแห้ง เป่าลดอุณหภูมิของชิ้นงาน เป็นต้น


    ภาพแสดง พัดลม Cross Flow Fan หรือ พัดลมโพรงกระรอก รุ่น UF6030

  • Centrifugal Fan ลมจะเป่าออกด้านข้างของพัดลม รูปทรงกลม เป็นโพรงกลม ๆ มองดูคล้ายล้อรถไถ ใบพัดหมุนเหวี่ยง มักจะมีแรงลมสูง

  • Blower Fan หากต้องการการเป่าลมออกจุดเดียวสูง ๆ การเลือกใช้ลักษณะพัดลมแบบโบลวเวอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก เช่น พัดลม Fulltech รุ่นUF-90DPB23H1S2A 230VAC ขนาดประมาณ 4 นิ้ว ให้แรงลมที่ 20 CFM

แรงดันไฟ

สำหรับการออกแบบการติดตั้งพัดลมระบายความร้อนให้กับเครื่องจักรหรือตู้คอนโทรลนั้น ต้องเลือกใช้พัดลมสำหรับการระบายความร้อนให้ตรงกับแรงดันไฟที่ต้องการทั้ง
ไฟกระแสตรง DC Cooling Fan ซึ่งจะมีทั้ง 5VDC,12VDC,24VDC,48VDC หรือไฟกระแสสลับ AC Cooling Fan ตั้งแต่ 100-380VAC ก็ได้ ทั้งนี้รวมถึงการเปลี่ยนอะไหล่
ของพัดลมให้กับเครื่องจักรหรือตู้ควบคุมไฟฟ้าต่าง ๆ ด้วยต้องเลือกให้ถูกต้องกับของเดิมเช่นกัน

จุดเชื่อมต่อไฟ

ที่ตัวของพัดลมระบายความร้อนจะมีจุดต่อไฟในแบบที่แตกต่างกัน คือ แบบที่เป็นสายไฟออกมาจากตัวพัดลม (Lead Wire Type) จะง่ายสำหรับผู้ผลิตเครื่องจักรหรือผลิต
ตู้คอนโทรล และแบบที่เป็นขาเสียบ (ปลั๊กตัวผู้) ยื่นออกมาจากตัวพัดลม (Terminal Type) หากผู้ผลิตเลือกใช้จุดเชื่อมต่อแบบ Terminal นี้จะมีอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า
ปลั๊กเสียบหรือปลั๊กคอร์ดใช้ร่วมด้วย จะทำให้การประกอบงานสะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นผลดีต่อผู้ใช้งานหากต้องการเปลี่ยนอะไหล่พัดลมก็จะสามารถทำได้ง่ายไม่ต้อง
ทำการเชื่อมต่อบัดกรีหางปลาหรือต่อพ่วงสายไฟให้ยุ่งยากอีก

น้ำหนัก

พัดลมที่มีน้ำหนักมาก อาจต้องคำนึงถึงการติดตั้งกับโครงสร้างหรือเครื่องจักรที่มั่นคงแข็งแรง ซึ่งจะอ้างอิงไปถึงวัสดุของตัวพัดลม หากโครงสร้างหรือใบพัดเป็นเหล็กย่อมมี
น้ำหนักมากกว่ารุ่นที่ผลิตจากพลาสติกหรือไฟเบอร์ ดังนั้นต้องคำถึงถึงเป้าหมายในการเลือกใช้เป็นหลัก เพราะอาจจำเป็นต้องใช้พัดลมที่มีน้ำหนักเยอะก็ได้

อุปกรณ์เสริมหรืออุปกรณ์ประกอบ

นอกจากจะมองถึงพัดลมระบายความร้อนที่ใช้เป็นหลักแล้ว การพิจารณาถึงอุปกรณ์ที่ต้องใช้ประกอบร่วมกับพัดลมก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ตะแกรงพัดลม (Fan Guard/Finger Guard) ฟิลเตอร์พัดลม (Plastic Filter Guard/Stainless Filter Guard) ปลั๊กเสียบพัดลม (Plug Cord) ตัวปรับแรงลม (Dimmer Cord/Speed Control Cord) วงแหวนพัดลม (Duct Ring) ควรมีให้หลากหลายแบบ เลือกใช้ได้ตามขนาดของพัดลมที่มีจำหน่าย เป็นแบบทั่วไปตามท้องตลาด

 

ราคาที่เหมาะสม

แน่นอนว่าราคาต้องคุ้มค่ากับการใช้งานและคุณภาพที่ใช้ เพราะโดยปกติแล้วถือว่าพัดลมเป็นอุปกรณ์ที่ต้องเปลี่ยนกันบ่อยๆ หากไม่ได้มีปัญหาการใช้งาน หรือเสื่อมสภาพ ดังนั้นจึงต้องเลือกให้ราคาและคุณภาพไปด้วยกันได้ด้วย

จากข้อมูลเหล่านี้ผู้ออกแบบหรือผู้ใช้งานทั้งเครื่องจักรหรือตู้ควบคุมต่าง ๆ สามารถนำไปใช้ประกอบในการเลือกซื้อเลือกใช้พัดลมระบายความร้อนได้ เลือกแบบไหนก็ได้ขอให้ตรงกับเป้าหมายและลักษณะงานของเรามากที่สุด อีกทั้งอย่าลืมพิจารณาไปถึง ซื้อที่ไหน ผู้จำหน่ายเชื่อถือได้เพียงใด มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำที่ดีอย่างจริงจังจริงใจ
หรือไม่ มีความรับผิดชอบ มีการรับประกันสินค้า หรือมีการทดสอบที่ดีก่อนส่งถึงมือผู้ใช้งานหรือไม่

เนื่องจากอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร ที่เกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรมหรือตู้คอนโทรลเลอร์ ที่จะต้องใช้งานในสถานที่ต่างๆ ทั้งในโรงงาน หรือบริษัท จำเป็นต้องใช้งานต่อเนื่องติดต่อกัน ทำให้เป็นแหล่งของความร้อนที่จะเกิดการสะสมเป็นเวลานาน ซึ่งในระยะยาวแล้วอาจจะทำให้อุปกรณ์เสื่อมสภาพ หรืออาจเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยและปัญหา
อัคคีภัยตามมาอย่างไม่คาดคิดได้ ดังนั้นการเลือกซื้อและติดตั้งพัดลมระบายความร้อนที่มีคุณภาพ จึงช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งรับรองว่าหากเครื่องมือเครื่องจักรหรือ
ตู้ควบคุมเกิดใช้งานไม่ได้ หรือเกิดอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเกิดอัคคีภัย ย่อมไม่คุ้มแน่นอนต่อชีวิต ทรัพย์สิน ที่อยู่อาศัย และธุรกิจของเรา การเลือกซื้อพัดลมระบายความร้อนที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลจึงมีความสำคัญมากครับ

โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

โทรศัพท์ : 02-529-6344
Hotline : 086-340-1848, 086-340-1849, 083-097-9338
E-Mail  : sales@tech-time.co.th
LINE ID : @tech-ti